มาทำความรู้จัก สไตล์ Mid Century Modern

Facebook Twitter Email
วันเรามีรูปแบบสถาปัตยกรรมและการออกแบบตกแต่งสไตล์ Mid-Century Modernมาแนะนำครับซึ่งสไตล์นี้เกิดในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่2 เป็นยุคที่นิยมรูปทรงเลขาคณิต ลายเส้น และการออกแบบภายนอกที่เน้นประโยชน์ของภายในที่ยังมีอิทธิพลด้านการออกแบบมาจนถึงปัจจุบันครับ
 
“จุดกำเหนิด ของ Mid-Century Modern”

ในช่วงยุคสิ้นสุดสงครามโลก หรือราวปีค.ศ. 1950 Mid-Century Modern เป็นสไตล์ของสถาปัตยกรรมและเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยม และพูดถึงเป็นอย่างมาก Mid-Century Modern ที่ว่านี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการขาดแคลนทรัพยากรอย่างมาก ด้วยเหตุที่พึ่งสิ้นสุดเสียงของสงคราม ผู้คนต่างๆมีความรู้สึกเหมือนได้รับชีวิตใหม่และพยายามที่จะฟื้นฟูสภาพแวดล้อมต่างๆที่ผ่านยุคสงครามมาอย่างยากลำบาก โดยมี Bauhaus สถาบันชื่อดังของเยอรมันที่เน้นสอนในเรื่องของการพัฒนาฟื้นฟูและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ขึ้นมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตมนุษย์ หรือที่ในเวลาต่อมาเราจะเรียกมันอย่างสั้นๆว่าการ ดีไซน์ (Design)


The Bauhaus หรือ School of Building นั้นได้รับการยอมรับจากวงการสถาปัตยกรรมทั่วโลกว่าเป็นต้นแบบและแรงบรรดาลใจ ของสถาปัตยกรรมสไตล์โมเดิร์นทั่วโลกไม่ใช่เพียงเหตุผลทางสิ่งปลูกสร้างอย่างเดียวเท่านั้น


Walter Gropius ผู้ก่อตั้งสถานศึกษาแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งวงการ Modern Architects นั้น มีแนวคิดที่ว่า "ศิลปะไม่ใช่เพียงความสวยงาม แต่ยังจะต้องใช้ประโยชน์ได้และดียิ่งขึ้นอีกด้วย" ดังนั้นThe Bauhausจึงไม่ใช่เพียงสถาบันที่ริเริ่มการออกแบบในสไตล์ Modern เพียงอย่างเดียว แต่ยังเปิดสอนแนวคิดในรูปแบบ Modernist อีกด้วยในช่วงระยะเวลาตลอดหลายสิบปีที่ก่อตั้งมานั้น The Bauhaus ผลิตผลงานภายใต้แนวคิดดังกล่าวมาแล้วมากมายซึ่งบางผลงานไม่เป็นที่ยอมรับสำหรับคนในยุคนั้นสักเท่าไร แต่ทว่าในเวลาต่อมากลับเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบัน


The Bauhaus ถูกออกแบบมาให้มีหน้าต่างจำนวนมากรอบตัวอาคารเพื่อรับแสงเข้ามาส่องสว่างในส่วนต่างๆภายในตึกซึ่งเป็นเรื่องแปลกใหม่อย่างมาในยุค 1950


การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของ The Bauhaus นั้นจะเน้นใช้รูปทรงเลขคณิตเป็นหลัก จนในปัจจุบันเราสามารถพบเห็นได้ในผลงานสถาปัตยกรรม สไตล์โมเดิร์น ต่างๆมากมาย


“ Palm Springs รัฐ Califonia เมืองที่เต็มไปด้วยเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรม Mid-Century Modern ”
Mid-Century Modern นั้นเรียกว่าเป็นยุคที่เหล็ก กระจก ไม้และคอนกรีต เข้ามามีบทบาทกับการออกแบบ ตกแต่งที่อยู่อาศัยของมนุษย์เรา ในด้านต่างๆเป็นอย่างมาก ตัวอย่างในการศึกษาสถาปัตยกรรมแบบ Mid-Century Modern นั้นคงหนีไม่พ้น เมือง Palm Spring,Califonia USA และ The Bauhaus,Dessau Germany ทั้งสองคือแหละรวมตัวอย่างสถาปัตยกรรมในยุด 1950s-1960 ที่น่าศึกษาเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว สถานีรถไฟ,รถราง ตึกอาคารธุกิจต่างๆก็ล้วนไปในธีมของ Mid-Century Modern แทบจะทั้งหมดครับ

อาคารสถานีรถราง ที่เมืองPalm spring เป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมMid-Century Modern ของที่นี่ อาคารรูปแปลกตานี้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนไม่น้อยเดินทางมาศึกษา แนวคิดการออกแบบสถาปัตยกรรมแนวนี้


ชายหลังคาทรงสามเหลี่ยมที่ยื่นออกมานั้นนอกจากจะให้เอกลักษณ์กับอาคารนี้แล้วยังให้ความร่มรื่น แสงแดดแทบจะไม่สามารถสัมผัสด้านในอาคาร ได้ง่ายๆแน่นอน


บ้านชั้นเดียว กับ พื้นที่ส่วนกลางกว้างๆที่สามารถเชื่อต่อกับส่วนอื่นๆของบ้าน สามารถพบเห็นไดทั่วไปที่นี่


จากสถานีรถรางในเมือง Palm Springs มาจนถึงจุดแวะพักลอยฟ้าที่ดูเห็นเหมือนเพียงโครงสร้างนั้น ความจริงแล้วประโยชน์ที่ได้จากโครงสร้างนี้มีมากมาย

“สไตล์สถาปัตยกรรมโครงสร้าง Mid-Century Modern Architects”
การออกแบบโครงสร้างสถาปัตยกรรมต่างๆนั้นเน้นลายเส้นที่ดูสะอาดตากับการเปิดพื้นที่โล่ง Mid-Century Modernจึงมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ชัดเจนมากคือ รูปทรงเลขาคณิตต่างๆที่รวมกันอย่างมีมิติและเน้นการใช้สีที่มาจากธรรมชาติ เพื่อให้ได้อาคารที่เป็นมากกว่าสิ่งปลูกสร้างสวยงามนั้น การออกแบบเน้นที่การเชื่อต่อระหว่างภายนอกและภายใน จึงมักจะเห็นกระจกบานใหญ่เข้ามาแทนที่การใช้ผนังทึบในแบบเก่านั่นเอง นอกจากนั้นยังมีโครงเหล็กที่นียมใช้เป็นเสา โครง กรอบ หรือแม้แต่การนำมาตกแต่ง ไม้ยุคนั้นยังคงใช้ไม้เป็นวัสดุหลักแต่จะมีการใช้ลวดลายหรือฉลุเป็นลายต่างๆเพื่อตกแต่งเป็นระแนง ฉากกั้น ประตูหน้าต่าง

การออกแบบสถาปัตยกรรมภายนอกในแบบที่เน้นความเรียบง่ายนี้ ซ่อนความละเอียดอ่อนในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆแม้กระทั่งลายเส้นที่เลือกใช้ เมื่อรวมกับการเปิดพื้นที่ต่างๆให้เชื่อมถึงกันนั้นดูลงตัว กลมกลืนและได้มิติของที่อยู่อาศัยที่ปลอดโปร่งสบายอีกด้วย


ในยุคของ Mid-Century modern นั้นรูปทรงเลขาคณิตต่างๆนั้นล้วนเข้ามามีบทบาทในการออกแบบมากมาย สร้างมิติใหม่ๆที่ บ่งบอกถึงภาพลักษณ์ ทางสังคมเหล่านั้นได้อีกด้วย


อาคารบ้านเรือนดั้งเดิมในยุคนั้นมักจะเน้นใช้อิฐและไม้เป็นส่วนใหญ่ ทำให้ภาพรวมของเมืองนั้นมักเต็มไปด้วยสีส้ม-น้ำตาล เมื่อสไตล์ Mid-Century Modernเริ่มเข้ามามีบทบาท สถาปัตยกรรมต่างๆก็เริ่มที่จะมีสีสันมากยิ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่นิยมใช้สีอ้างอิงมาจากธรรมชาติ เช่น สีเขียวจากต้นไม้ สีเหลืองจากหาดทราย สีฟ้าจากท้องฟ้า


สิ่งที่แตกต่างจากสถาปัตยกรรมแบบเดิมมากที่สุดอย่างหนึ่งคงจะหนีไม่พ้นการเปิดพื้นที่โล่งๆดูสว่างสะอาดตา วิธีการหลักๆที่ใช้ในแบบ Mid-Century Modern นั่นก็คือการใช้กระจกบานใหญ่ๆเข้ามาแทนที่การใช้ผนังกันแบบเก่า เป็นหลักแนวคิดที่นิยมใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน

 

“5ตัวอย่างการตกแต่งบ้านง่ายๆ ในสไตล์ Mid-Century Modern”
ถ้าหากเป็นคนที่ชอบการใช้ลายเส้นที่ดูสะอาดตา สีที่ดูเป็นธรรมชาติ พื้นที่รับแขกแบบเรียบง่าย จะต้องหลงรักกับการแต่งบ้านสไตล์ Mid-Century Modern อย่างแน่นอน วันนี้เรารวมเอาวิธีแต่งบ้านง่ายๆ 5 ขั้นตอนที่สามารถทำได้ที่บ้านของคุณมาฝากกันครับ

หมอนอิงรูปทรงสี่เหลี่ยม
ที่มีลวดลายแปลกตาซ้ำไปมาเป็นอีกไอเทมที่เลือกใช้ในการแต่งห้องให้มีมิติมากขึ้น หมอนอิงถูกจัดวางกับห้องนอนโทนสีครีมขาวดูนุ่มนวลสะอาดตาเหมาะสำหรับคนที่ชอบห้องนอน ในแบบคลีนๆโทนอบอุ่น
โคมไฟตั้งโต๊ะขาเหล็ก
เน้นรูปทรงใหญ่ใช้ผ้าเป็นตัวบังแสงไฟจากหลอด ส่วนขาของโคมไฟ จะเป็นวัสดุที่ทำจากเหล็ก มีลักษณะมันวาวเหมาะกับการนำมาตกแต่งภายในห้องนอน ช่วยสร้างบรรยากาศให้ดูอบอุ่น น่าพักผ่อนมากยิ่งขึ้น


โคมไฟตั้งพื้นสามขา 
ทรงสูงใหญ่ใช้ผ้าเป็นตัวบังแสงไฟจากหลอด ส่วนขาของโคมไฟ จะเป็นวัสดุที่ทำจากไม้ ลักษณะเป็นโคมไฟสามขาเหมาะกับการนำมาตกแต่งภายในห้องรับแขกหรือห้องหนังสือและมุมโปรด 
อาร์มแชร์ผ้าโทนเหลืองขาไม้ 
ผิวเรียบรูปทรงหนารองรับการใช้งานได้อย่างสบายพร้อมกับดีไซน์ของขาอาร์มแชร์ ที่ใช้วัสดุที่ทำจากไม้ตัดกับโทนสีเหลืองของเบาะที่หุ้มที่นั่งและพนักพิง เหมาะสำหรับคนที่ชอบโซฟาที่มีสีสันแต่เรียบง่ายด้วยดีไซน์ที่มั่นคงแข็งแรง


เก้าอี้ขาวขาไม้บีช 
รูปทรงโค้งมนมีเสน่ห์ โทนสีขาวสบายตา ที่นั่งทำจากพลาสติกสีขาวอัดขึ้นรูป ให้รองรับกับการใช้งาน ขาทำจากวัสดุเหล็กเส้นสีดำยึดไขว้ไปมาเพื่อความแข็งแข็งของเก้าอี้ สามารถนำมาจัดวางได้กับทุกมุมของบ้าน 
พรมโทนขาวดำถักลายจักรสาน 
ลักษณะของลายนี้จัดพบเห็นในงานประเภทจักรสานงานหัดถกรรม โทนสีดูเรียบง่ายเหมาะ กับคนที่ชอบตกแต่งห้องด้วยการคุมโทนด้วยสีกลางเช่นสีเทา หรือจะเป็น ห้องโทนสีขาวดำ ก็สวยเหมือนกัน พรมจัดเป็นอีกไอเทมที่ช่วยสร้างบรรยากาศภายในห้องให้เท่ได้


โคมไฟติดเพดาน 
ไอเทมที่ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับบ้าน วัสดุของตัวคลอบหลอดไฟทำจากแก้วหลอมขึ้นรูป ส่วนขาจะเป็นโลหะชุปสีทองเพิ่มความมันวาวหรูหรา ห้อยลงมาจากเพดาน เหมาะกับคนที่รักการแต่งบ้านที่เน้นความหรูหรา 
โคมไฟติดผนัง 
ไอเทมที่ช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับบ้าน วัสดุของตัวคลอบหลอดไฟ ทำจากแก้วหลอมขึ้นรูปส่วนขาจะเป็นโลหะชุปสีทองเพิ่มความมันวาวหรูหรา เหมาะกับคนที่รักการแต่งบ้านที่เน้นความหรูหรา


อาร์มแชร์ผ้าโทนสีฟ้า 
ผิวเรียบรูปทรงหนา ตัวพนักพิงโค้งโอบรับการใช้งานของหลัง และมีการดึงดุมเป็นบางจุด ส่วนขาใช้วัสดุที่ทำจากไม้ตัดกับโทนสีฟ้าของเบาะหุ้มที่นั่งและพนักพิง เหมาะสำหรับคนชอบโซฟาที่มีสีสันแต่เรียบง่ายด้วยดีไซน์มั่นคงแข็งแรง 
หมอนอิงลายเลขาคณิต
รูปทรงสามเหลี่ยมซ้ำไปมาและไล่ระดับโทนสีฟ้าอ่อนไปถึงสีฟ้าเข้ม เป็นอีกไอเทมที่ช่วยสร้างสีสันให้กับมุมต่างๆภายในบ้านได้ 
พรมผ้าลายเส้นหลากสี 
เพิ่มมิติด้วยความกว้างของลายเส้นบนพรม พรมเป็นอีกไอเทมแต่งบ้าน ที่หลายคนชื่นชอบ เพราะช่วยให้บ้านดูมีสีสันมากขึ้นได้อีกทาง พรมหลากสีกับชุดอาร์มแชร์สีฟ้า เป็นอีกมุมพักผ่อนที่ช่วยสร้างความสดใสให้กับบ้านได้


ถือได้ว่าไอเดียแต่งบ้านในสไตล์นี้น่าสนใจมากๆเลยครับ หากใครที่ชื่อชอบในสไตล์ Mid Century Modern อยู่แล้วจะต้องหลงรักเฟอร์นิเจอร์ในยุคนี้แน่ๆครับ แต่สำหรับใครที่เพิ่งได้มาทำความรู้จักกับสไตล์นี้ก็สามารถลองนำไอเดียเหล่านี้ไปแต่งบ้านของคุณให้สวยเท่ได้เหมือนกันครับ รับรองว่าไม่ตกยุคแน่นอน
 

ไอเดียแต่งบ้าน